ข่าวและบทความ

  •   ประกาศคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคเป็นธรรม ที่ ๒/๒๕๖๖
                        
  • ประกาศคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคเป็นธรรม ที่ ๑/๒๕๖๖
                      
  • พรรคเป็นธรรม เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ปัตตานี ยะลา นราธิวาสติดตามรับชมการ Live ทาง FB พรรคเป็นธรรม
    ลูกหลานปาตานี “ตัวจริง”คนทำงาน “ตัวจริง”พรรคเป็นธรรม เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ปัตตานี ยะลา นราธิวาสติดตามรับชมการ Live ทาง FB พรรคเป็นธรรม #อยู่เย็นเป็นธรรม #พรรคเป็นธรรม
  • 21 มกรา’ มาร่วมเปลี่ยนสู่การเมืองใหม่สร้างประเทศไทยให้ “อยู่เย็น เป็นธรรม”
    21 มกรา’ มาร่วมเปลี่ยนสู่การเมืองใหม่สร้างประเทศไทยให้ “อยู่เย็น เป็นธรรม” #อยู่เย็นเป็นธรรม
  • คำขวัญวันเด็ก จากพรรคเป็นธรรม
    เด็กวันนี้ จะเติบใหญ่ ในวันหน้า เด็กต้องกล้า เด็กต้องดี มีวินัย ลูกหลานไทย เมื่อเติบใหญ่ ต้องไม่โกง
  • ครั้งแรกกับการเยือนยะลาของ ดร.ปิติพงศ์ เพื่อรับฟังปัญหาการศึกษาศาสนาอิสลามในระดับชุมชน
    ดร.ปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม กล่าวว่าถ้าไม่เห็นกับตา คงยากที่จะเชื่อว่า เด็ก ๆ ที่นี่และอีกหลายพื้นที่ในสามจังหวัดชายแดน ต้องอาศัยตึกร้างหรืออาคารคับแคบเพื่อเรียนศาสนา อีกทั้งยังขาดแคลนอุปกรณ์การเรียนการสอนที่เหมาะสมอีกมาก ถ้าหากปัญหานี้กระทรวง ทบวง กรม ที่รับผิดชอบยังมองไม่เห็น หรือไม่ใส่ใจ คงต้องเปลี่ยนให้ #จังหวัดจัดการตนเอง ดังนโยบายที่พรรคเป็นธรรมจะนำเสนอเพื่อประโยชน์สูงสุดแด่ราษฎรในพื้นที่ ขอขอบคุณครูยา ซูพียัน ดาริอิ และ คุณฮากิม พงตีกอ เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. จังหวัด ยะลา และปัตตานีที่ดูแลส่งข่าวความเดือดร้อนในพื้นที่ ให้ผมได้ศึกษาเยี่ยมชม ขอบคุณชาวบ้านในพื้นที่ที่ให้การต้อนรับผมและทีมงานพรรคเป็นธรรมอย่างอบอุ่น
  • 21 มกราคมนี้ พบกับงานเปิดตัวผู้สมัครและเสวนานโยบายพรรคเป็นธรรม
    21 มกราคมนี้ พบกับงานเปิดตัวผู้สมัครและเสวนานโยบายพรรคเป็นธรรม ณ ห้องภาณุรังสี โรงแรมรอยัลริเวอร์ บางพลัด ถ่ายทอดสดผ่าน (Link FB พรรคเป็นธรรม) ตั้งแต่เวลา 13.30 น. เป็นต้นไป #อยู่เย็นเป็นธรรม
  • ปีใหม่.. สังคมไทยจะต้องเป็นธรรม ปีใหม่.. เปลี่ยนใหม่เพื่อเปลี่ยนแปลง
    หลายปีที่ผ่านมาหลังการ ทำรัฐประหารซ้ำซาก การเมืองไทยตกอยู่ในยุคที่ประชาชนต้องทนอยู่กับการบริหารบ้านเมืองแบบเก่า นักการเมืองที่มีความคิดเก่าที่ยึดโยงกับอำนาจที่ไม่ใช่ของประชาชน ยึดแต่พวกพ้องเฉพาะตน สวมหน้ากากความดี เห็นคนไม่เท่ากัน แบ่งแยกคนที่คิดต่างออกจากตน ยกตนว่าเหนือกว่าทั้งอำนาจและบารมี ร่วมมือกับอำนาจนอกระบบ ใช้กำลังกองทัพที่มาจากภาษีประชาชน ฉวยโอกาส เข้ามาบริหารประเทศบ้านเมืองโดยอ้างความไม่ปกติ ขยายพันธุ์ผลไม้พิษ แทรกซึมสู่ระบบยุติธรรม สร้างความไม่เป็นธรรมในสังคม ข่มขืนใจให้ยอมรับมติที่ไม่ใช่มาจากคนส่วนใหญ่ของประเทศ ปี 2565 ที่กำลังจะผ่านพ้น ยิ่งชี้ชัดว่าเป็นปีแห่งการสิ้นสุดความอดทนของประชาชน ซึ่งแทบจะเป็นประชามติแล้วว่า ถึงเวลา ต้อง “เปลี่ยนใหม่เพื่อเปลี่ยนแปลง” “พรรคเป็นธรรม” เห็นเด่นชัดว่าไม่มีสิ่งใดสำคัญไปกว่า การพาความ “เป็นธรรม” ให้คืนสู่สังคมไทย ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ 2566 ที่กำลังมาถึง “พรรคเป็นธรรม” ขอเชิญพลังอันยิ่งใหญ่ของประชาชนร่วมกัน “เปลี่ยนใหม่เพื่อเปลี่ยนแปลง” ประเทศ “พรรคเป็นธรรม” ในฐานะ พรรคใหม่ คนใหม่ การเมืองใหม่ พร้อมอาสาลงมือทำ และขอตอกย้ำว่า การเปลี่ยนแปลงจะต้องเกิดขึ้นในสังคมไทย หมดเวลาสำหรับรัฐบาลแปดเปื้อน ได้เวลากระชากหน้ากากคนดี เพราะบัดนี้ ประเทศไทยประชาชนไทย ได้เวลา.. “เป็นธรรม” ด้วยความเชื่อมั่นและศรัทธา ในพลังอันยิ่งใหญ่ของประชาชน พรรคเป็นธรรม
  • พรรคเป็นธรรม สวัสดี วันปี “ใหม่” ปีสดใส ไม่มี “3 ป”
    แปดปี ต้องเปลี่ยนใหม่ แปดเปื้อน ต้องรีบไป ปีหน้า นับหนึ่ง “ใหม่” เปลี่ยนแปลง “ใหม่” ไม่มี “ป” พรรคเป็นธรรม สวัสดี วันปี “ใหม่” ปีสดใส ไม่มี “3 ป”
  • ดร.ปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม สวัสดีวันปีใหม่ 2566
    ขอให้สุข ทุกวาร กาลสมัย มีสุขะ พลานามัย สมสุขศรี เจริญลาภยศ ลือไกล ชัยทวี แลครอบครัว มั่งมี ยิ่งเจริญ อะไรที่ไม่ดีในปีเก่าก็ขอให้ผ่านพ้นไป ขอให้ทุกท่าน ได้รับแต่สิ่งดีๆ มีความสุขตลอดไปครับ
  • ลูกพระเจ้าตากตั้งแต่เกิด ดร.ปิติพงศ์ พรรคเป็นธรรม ร่วมสักการะดวงพระวิญญาณ วันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
    ดร.ปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม ร่วมพิธีบวงสรวงดวงพระวิญญาณสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ร่วมกับผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เป็นประธานในพิธี และปลัด กทม. นายขจิต ชัชวานิชย์ ดร.ปิติพงศ์ กล่าวว่า 28 ธ.ค.ของทุกปีเป็นวันสำคัญของคนไทยโดยเฉพาะชาวธนบุรีที่เป็นลูกหลานสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เป็นวันคล้ายวันปราบดาพิเษกและสถาปนากรุงธนบุรีเป็นราชธานีหลังกอบกู้เอกราชจากการเสียกรุงศรีอยุธยา ตนเองในฐานะลูกพระเจ้าตากตั้งแต่กำเนิดจึงมาร่วมพิธีสักการะในวันนี้ ขอขอบคุณหน่วยงานราชการโดยเฉพาะ กทม. ที่ให้ความสำคัญทำพิธีบวงสรวงสักการะพระองค์ ซึ่งในปีนี้ท่านผู้ว่าฯมาเป็นประธานในพิธี กรุงธนบุรีเป็นราชธานีหนึ่งเดียวของประเทศไทยที่ไม่ได้เป็นจังหวัด แต่ถูกหมายรวมเป็นจังหวัดร่วมกับ จังหวัดพระนครตั้งแต่ปี 2514 ตนเฝ้านับวันหวังว่าสักวันหนึ่งกรุงธนจะกลับมาเป็น จังหวัดธนบุรี เป็นหนึ่งในราชธานีไทยเหมือนในอดีต 28 ธันวาคม วันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช #ปิติพงศ์เต็มเจริญ#พรรคเป็นธรรม #ลูกพระเจ้าตาก #ประชาชนต้องเป็นใหญ่#ประชาธิปไตยต้องเป็นธรรม
  • “พรรคเป็นธรรม” จัดทัพสู้ศึกเลือกตั้ง เตรียมเปลี่ยนกรรมการบริหารชุดใหม่
    ดร.ปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม ระบุได้เวลา “เปลี่ยนใหม่เพื่อเปลี่ยนแปลง” เตรียมจัดประชุมใหญ่พรรค คณะกรรมการชุดเดิมจึงได้เปิดทางให้มีเปลี่ยนคณะกรรมการบริหารพรรคใหม่ทั้งหมดเพื่อจัดทัพสู้ศึกเลือกตั้งทุกเขตทั่วประเทศ พร้อมเปิดรับคนรุ่นใหม่เข้าร่วมทำงานการเมือง ดร.ปิติพงศ์ กล่าวว่า “แม้แต่ตัวผมเองก็ไม่ยึดติดอยู่กับตำแหน่ง ผมมองถึงแนวทางนโยบายการทำงานเป็นหลักว่า เราสามารถจะทำอะไรให้กับประชาชนได้มากที่สุด ในฐานะที่ผมเป็นนักกฏหมาย ผมมีหลักชัดเจนเช่นกัน คือ กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย กฎหมายต้องไม่อยู่ใต้อภิสิทธิ์ชน ดังนั้น การทำงานทุกอย่างต้องโปร่งใส และเป็นธรรม” นายกัณวีร์(นล) สืบแสง ประธานยุทธศาสตร์และรองหัวหน้าพรรค ระบุ “ประเทศนี้เป็นของประชาชน และประชาชนคือผู้กำหนดชะตาชีวิตตนเองและของประเทศ เตรียมประกาศ 3 นโยบายหลักปักธงจังหวัดชายแดนใต้ มนุษยธรรมนำการเมือง สันติภาพที่กินได้ และ จังหวัดจัดการตนเอง เพื่อเป็นพรรคใหม่ คนใหม่ การเมืองใหม่ที่พร้อมจะทำงานเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง” ทั้งนี้ การประชุมใหญ่ของพรรค ที่กำลังจะเกิดขึ้นเร็วๆนี้ จะเป็นการเปลี่ยนแปลงเพื่อเปลี่ยนใหม่คณะกรรมการบริหารพรรคใหม่ทั้งหมดเพื่อเตรียมพร้อมสู่สนามเลือกตั้ง และพรรคเป็นธรรมพร้อมจะส่งผู้สมัครในทุกเขตทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย
  • ค่าแรงมาก หรือน้อย
    ค่าแรงมาก หรือน้อย ค่อยๆปรับ เพื่อให้รับ ความเป็นจริง สิ่งที่เห็น ศักยภาพ ของแรงงาน เท่าที่เป็น โดยต้องเน้น “เป็นธรรม” นำมาพิจารณา “พรรคเป็นธรรม” สนับสนุน “การเพิ่มค่าแรง” คู่ขนานกับ “คุณภาพชีวิต” และ “สวัสดิการ” ที่ เป็นธรรม
  • รัฐธรรมนูญแบบไหนที่คนไทยต้องการ?
    ถ้ากฎหมาย #เป็นธรรม ไม่อยู่ใต้ #อภิสิทธิ์ชน แบบนี้ ดีหรือไม่? ใช่หรือยัง? #ประชาชนต้องเป็นใหญ่#ประชาธิปไตยต้องเป็นธรรม
  • ต่อต้าน คอร์รัปชัน
    ต่อต้าน คอร์รัปชัน ป้องกันชาติ ลดอำนาจ การผูกขาด กินชาติไทย “ประชาชน ต้องเป็นใหญ่” และเป็นไท ช่วยกันขับ ช่วยกันไล่ “จัญไรชน” คนไทย จะ “ไม่ทน” คนไทย จะ “ไม่จน” ถ้า “ไทย” พ้น “การทุจริต”
  • แถลงการณ์ “พรรคเป็นธรรม” วันรัฐธรรมนูญ 10 ธันวาคม
    หลังจากระบบการปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์สิ้นสุดลง ประเทศไทยได้ใช้พระราชบัญญัติธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามชั่วคราว พุทธศักราช 2475 ซึ่งร่างโดยคณะราษฎร บังคับใช้เมื่อ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2475 ก่อนจะมีการลงพระปรมาภิไธยโดยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม หรือ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2475 เมื่อ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475 จวบจนถึงวันนี ประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญใช้มาแล้วถึง 20 ฉบับ โดยมีรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 เป็นฉบับปัจจุบัน และกำลังถูกแก้ไข เพิ่มเติม กติกาเลือกตั้งอีกครั้ง เมื่อสภามีมติเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. เพิ่มเติมในวาระสาม ประกาศใช้เป็นรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 1) พุทธศักราช 2564 ซึ่งมีสาระสำคัญ คือ • เปลี่ยนสัดส่วนจำนวน ส.ส.เขต ต่อ ส.ส.บัญชีรายชื่อ จากเดิม 350 : 150 มาเป็น 400 : 100 • เปลี่ยนบัตรเลือกตั้งจากใบเดียว เป็นสองใบ คือ บัตรเลือก ส.ส.เขต และบัตรเลือกพรรคการเมือง • เปลี่ยนวิธีการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อใหม่ ให้เหมือนกับ รัฐธรรมนูญ ปี 2540 และ 2550 ที่คำนวณเป็นสัดส่วนตามคะแนนที่ได้พรรคได้รับ การเปลี่ยนแปลงระบบเลือกตั้งนี้ น่าจะทำให้มีพรรคขนาดใหญ่ที่ได้เสียงข้างมากเกินกึ่งหนึ่งของสภา ขณะเดียวกัน ก็อาจจะทำให้พรรคการเมืองใหม่ และพรรคการเมืองขนาดเล็ก แจ้งเกิดในสนามการเลือกตั้งได้ยาก ไม่ว่าการเลือกตั้งครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นเมื่อใด หรืออาจต้องสะดุดลงอีกครั้งจากอำนาจนอกระบบอีกหรือไม่ แต่สิ่งหนึ่งได้เกิดขึ้น และยังคงตกค้าง เปรียบดังผลไม้พิษของการรัฐประหารครั้งล่าสุด ก็คือ สว.หุ่นยนต์ลากตั้ง ที่ยังคงอยู่ ย้อนกลับไปเมื่อ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 วันที่วุฒิสภาเปิดประชุมเป็นครั้งแรก สมาชิกวุฒิสภา (สว.) แต่งตั้งทั้ง 250Continue reading “แถลงการณ์ “พรรคเป็นธรรม” วันรัฐธรรมนูญ 10 ธันวาคม”
  • “ยาพิษ”
    “ยาพิษ” อยู่ที่ไหน ก็เป็นพิษ “จะเปลี่ยนแก้ว เปลี่ยนขวด เปลี่ยนสี เปลี่ยนสลาก” ก็ยังคงเป็น “ยาพิษ” “ยาพิษ” ไม่มีวันหมดอายุ ไม่มี “จุดยืน” จะหนุ่ม หรือ แก่ อยู่ที่ไหน อยู่พรรคไหน ก็เป็น “ยาพิษ” “ยาพิษ” คือ “ภัยของการเมือง” และ “ประชาชนคนไทย”
  • “บ้านที่ดี”
    “บ้านที่ดี” ต้อง มีความสุข “สังคมที่ดี” ต้องมี กฎหมาย ที่”เป็นธรรม”
  • กฎหมายมีประโยชน์ ไม่โหวตผ่าน
    ดร.ปิติพงศ์ พรรคเป็นธรรม ซัดการเมืองเก่า ฟังแต่นายทุน ไม่ฟังประชาชน คว่ำสุราก้าวหน้า ดร.ปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรมให้ความเห็นต่อการโหวตคว่ำ พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ที่เสนอโดยพรรคก้าวไกลว่า เสียงข้างมากในสภาไม่ได้ฟังเสียงประชาชน แต่ฟังเสียงของผู้มีอำนาจและนายทุน ถึงไม่โหวตเห็นชอบกฎหมายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติอย่างแท้จริง ส่วนการออกกฎกระทรวงเรื่องการผลิตสุราพื้นบ้านไม่ได้ปลดล็อกจริง ยังมีข้อจำกัดมากมายในรายละเอียด เป็นแค่เกมการเมืองเก่าๆที่ใช้เป็นเครื่องมือขัดขวางการปลดล็อกเพื่อรักษาผลประโยชน์ให้จ้าวตลาดเดิม เกมการเมืองแบบนี้ไม่ #เป็นธรรม และไม่อาจยอมรับได้อีกต่อไป รัฐบาลใหม่ การเมืองใหม่ๆ จากการเลือกตั้งครั้งหน้าควรจะได้คนที่ฟังเสียงประชาชนจริงๆเข้ามาบริหารได้แล้วนะ #สุราก้าวหน้า #ปิติพงศ์เต็มเจริญ#พรรคเป็นธรรม #ประชาชนต้องเป็นใหญ่#ประชาธิปไตยต้องเป็นธรรม
  • แถลงการณ์ “พรรคเป็นธรรม” ถึง “ประชาชน”
    “เลิกกดหัวประชาชนไม่ให้เป็นใหญ่ หยุดแอบอ้างประชาธิปไตยอย่างไม่เป็นธรรม” การเมืองใดก็ตาม ที่มีการสืบทอดอำนาจ แบ่งปันผลประโยชน์กันเอง ระหว่างผู้ยึดอำนาจจากประชาชน และนำอำนาจนั้นไปแบ่งผลประโยชน์ ระหว่างนักการเมืองไร้จริยธรรม ร่วมกับผู้มีอำนาจไร้สามัญสำนึก ที่กระหายการต่ออำนาจ ไม่รู้จบ โดยผ่านการรับรองด้วยวิธีการ หรือกลไกพิเศษบางอย่าง ที่เป็นที่พึ่งและเสาหลักเฉพาะของผู้มีอำนาจ แต่มิอาจเป็นที่พึ่งของประชาชนส่วนใหญ่ได้เลย “การเมืองแบบนี้ คือ การเมืองเก่า ด้วยคนเก่า ผ่านวิธีรักษาอำนาจแบบเก่าๆ” พรรคเป็นธรรม ยึดมั่นในอุดมการณ์ “ประชาชนต้องเป็นใหญ่ ประชาธิปไตยต้องเป็นธรรม” ซึ่งจะเกิดขึ้นได้จากพรรคการเมือง และคนการเมือง ที่มีความคิด และพฤติกรรมแบบใหม่ๆ เท่านั้น ภายใต้ระบอบประชาธิปไตย และการเลือกตั้งเป็นเครื่องมือสำคัญ ในการคัดสรรพรรค และนักการเมือง เข้าไปรับใช้ประชาชน “พรรคเป็นธรรม” ขอแสดงจุดยืนที่ชัดเจนว่า พรรคเป็นธรรมเป็นพรรคที่นิยมประชาธิปไตย ที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลางแห่งอำนาจ อย่างแน่นอน “พรรคเป็นธรรม” ขอให้ประชาชนได้ใส่ใจกับพฤติกรรมของพรรคการเมือง และนักการเมือง ที่ผ่านมา ในการเลือกตั้งครั้งที่แล้วว่า ยังมีท่านใดที่มีศักดิ์ศรี ความจริงจัง จริงใจ และสามารถเป็นที่พึ่งของประชาชนได้อย่างชัดเจน และเด็ดขาด ซึ่งหากยังมีท่านเหล่านั้นหลงเหลืออยู่บ้าง ก็ยังถือว่า ประเทศไทยและประชาชน ยังมีความหวัง กับการเลือกตั้งในครั้งหน้า ที่จะยังได้นักการเมืองดีๆ เข้าสู่สภา “พรรคเป็นธรรม” ขอเรียกร้องให้ประชาชนผู้รักประชาธิปไตย และรักการเปลี่ยนแปลง ได้เริ่มต้นพิจารณา ทางเลือกใหม่ๆ เพื่อเปรียบเทียบกับ ทางเลือกเก่าๆ เพื่อให้ 1 เสียง ของท่าน เป็นเสียงศักดิ์สิทธิ์ นำพาประเทศไทย และประชาชน ไปสู่ ความหวังใหม่ อนาคตใหม่ ที่ไปข้างหน้า มากกว่าการถอยหลังอย่างต่อเนื่อง ยังมีเวลาอีกพอสมควร ที่ประชาชน จะเปิดใจ เปิดหู เปิดตา พิจารณาคนใหม่ๆ ที่มีคุณภาพเข้าสู่การเมืองใหม่ ที่ไม่เอาเผด็จการ ไม่ผลาญงบ และไม่คบคนชั่ว “เปลี่ยนใหม่ เพื่อเปลี่ยนแปลง” คือ ทางรอดของประเทศ ประชาชน และลูกหลานไทยในอนาคต ด้วยความนับถือ และศรัทธาต่อเสียง “ประชาชน” พรรคเป็นธรรม 30 กันยายน 2565 #พรรคเป็นธรรม #เปลี่ยนสร้างสู้Continue reading “แถลงการณ์ “พรรคเป็นธรรม” ถึง “ประชาชน””
  • เพราะการเมือง เป็นเรื่องของเราทุกคน
    มาร่วมกัน เปลี่ยน! สร้าง! สู้! เพื่อประชาธิปไตยที่เป็นธรรม ขอเชิญประชาชนและสื่อมวลชนทุกท่าน ร่วมสนทนาการเมือง วันที่ 1 ตุลาคม 2565 เวลา 18.00 น. ณ อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา #พรรคเป็นธรรม [FAIR PARTY] พรรคใหม่ คนใหม่ การเมืองใหม่ ประชาชนต้องเป็นใหญ่ ประชาธิปไตยต้องเป็นธรรม
  • สารจากพรรคเป็นธรรม
    “ประชาชน” ต้องเป็นใหญ่ ประชาธิปไตย ต้อง “เป็นธรรม” ภายใต้รัฐธรรมนูญ 13 ฉบับ ตลอดเส้นทางประชาธิปไตย 90 ปี ของประเทศไทย “ประชาชนไม่เคยเป็นใหญ่อย่างแท้จริง” ซ้ำร้าย ยังโดนกดหัว กดตัว กดความคิด กดเสียง ให้ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ภายใต้ระบอบเผด็จการยึดอำนาจ และการสืบทอดอำนาจ ผ่านนักการเมืองที่มุ่งประโยชน์กันเองผ่านการเลือกตั้ง เพียงเพื่อขอ”เสียงประชาชน” ไปเปลี่ยนเป็น”มือในสภา” หยิบฉวย สร้างและแบ่งปันผลประโยชน์ ส่งต่อมรดก อำนาจ ให้ลูกหลาน บ้านใหญ่ บ้านกลาง บ้านเล็ก ข้ามหัวประชาชน ผู้เป็นเจ้าของประเทศ เจ้าของเสียง เจ้าของอำนาจ ที่แท้จริง เหตุการณ์ผ่านมา 90 ปี จนประชาชน เคยชินและลืมไปแล้วว่า ประชาชน นั่นแหละคือ ผู้มีอำนาจเหนือนักการเมือง ภายใต้ระบอบประชาธิปไตย และ ผลที่ประชาชนได้รับอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่รุ่น ปู่ย่าตายาย พ่อแม่ พี่น้อง จนถึงรุ่นลูกหลาน ในปัจจุบัน คือ ความจนกระจายทั่วทั้งแผ่นดิน ข้างล่างจน ข้างบนรวย เกิด แก่ เจ็บ ตาย ไร้คุณภาพ เกิดความเหลื่อมล้ำ ความไม่เป็นธรรม ในทางเศรษฐกิจและสังคม ขาดโอกาสให้กับคนรุ่นใหม่ ด้านสิทธิ เสรีภาพและการแสดงพลัง และประชาชน คนเดินดิน ไร้สิ้นซึ่งคุณภาพชีวิตที่เหมาะสม ในมิติของ เศรษฐกิจ สังคม คุณภาพชีวิต การศึกษา และกฏระเบียบต่างๆของประเทศ โดยเฉพาะจาก 16 ปี รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 และ 8 ปี รัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมา นำไปสู่ การสืบทอดอำนาจทางการเมือง จากเชื้อชั่วเผด็จการ ผ่านการเลือกตั้ง ที่ นักการเมืองดูถูกเสียงประชาชน ด้วยวิธีเดิมๆContinue reading “สารจากพรรคเป็นธรรม”
  • “ปิติพงศ์” ต้อนรับ “กัณวีร์”นั่งรอง หน.พรรคเป็นธรรมควบประธานยุทธศาสตร์และนโยบายดูแล 4 จว.ใต้
    พรรคเป็นธรรมแต่งตั้ง “นายกัณวีร์ สืบแสง” อดีตหัวหน้าสำนักงาน UNHCR ดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค ควบตำแห่งประธานยุทธศาสตร์ และนโยบายพรรค “ดร.ปิติพงศ์ เต็มเจริญ” หัวหน้าพรรคเป็นธรรม ชี้ผลโหวตในสภาอภิปรายไม่ไว้วางใจ ยิ่งตอกย้ำว่าประชาชนต้องการนักการเมืองที่เป็นคนมีแนวคิดใหม่เข้ามาทำงานในสภาเพื่อเปลี่ยนแปลงเสียงของประชาชนให้เป็นใหญ่ และต้องมีอุดมการณ์เพื่อประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ดร.ปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรมกล่าวว่า “ผลการนัดหารือที่ผ่านมากับนายกัณวีร์ สืบแสง ประธานมูลนิธิสิทธิเพื่อสันติภาพเกี่ยวกับประเด็นปัญหาสิทธิมนุษยชน มนุษยธรรม ความยุติธรรม รวมถึงกระบวนการสันติภาพต่างๆ ของประเทศไทย เราตระหนักร่วมกันว่า การจะแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้จริง จำเป็นต้องเสนอแนวคิดนโยบายผ่านทางพรรคการเมืองที่มีอุดมการณ์ตรงกันชัดเจนคือ “ประชาชนต้องเป็นใหญ่ ประชาธิปไตยต้องเป็นธรรม” ทั้งนี้ พรรคเป็นธรรม เป็นพรรคที่พร้อมเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ที่มีอุดมการณ์และประสบการณ์ด้านต่างๆ เข้ามาทำงานการเมือง ถือเป็นโอกาสดีอย่างยิ่งที่คุณกัณวีร์ ได้ตอบรับสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรค โดยทางพรรคได้ดำเนินการตามกระบวนการจนถึงชั้นคณะกรรมการบริหารพรรคได้มีมติแต่งตั้งให้คุณกัณวีร์ ดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค ตำแหน่งประธานยุทธศาสตร์และนโยบายของพรรคเป็นธรรมเพื่อดูแลพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นายกัณวีร์ กล่าวว่า “ขอขอบพระคุณทางพรรคเป็นธรรม ที่กรุณาให้เกียรติกับตนเป็นอย่างยิ่ง ในชั้นนี้ ผมขอแสดงทรรศนะสั้นๆ เบื้องต้นว่า สถานการณ์ทางการเมืองหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีบางคนของพรรคร่วมฝ่ายค้านที่เพิ่งจบไปนั้น ประเมินได้ว่า นับแต่นี้ไปการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลจะมีสภาพเป็นเป็ดง่อย หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงใหญ่ทางการเมือง และจะจบลงด้วยการจัดให้มีการเลือกตั้งส.ส.ใหม่ ซึ่งพรรคเป็นธรรมก็จะเข้าสู่สนามเลือกตั้งอย่างแน่นอน จากประสบการณ์ส่วนตัวที่เคยปฏิบัติงานในหน่วยงานความมั่นคง และองค์การระหว่างประเทศนานถึง 12 ปี ใน 8 ประเทศ เชื่อมั่นว่า หลักมนุษยธรรมนำการเมือง และ สันติภาพที่กินได้จับต้องได้ จะนำพาประเทศชาติสู่สันติสุขอย่างยั่งยืน ถึงเวลาแล้วที่คนไทยทั่วทุกสารทิศจะต้องหันหน้ามาจับมือกันร่วมกันสร้างบ้านแปงเมือง ถึงเวลา Time to come home และ Time to be fair แล้ว ประวัติโดยย่อ ของนายกัณวีร์ สืบแสง (ปัจจุบันอายุ 46 ปี) ด้านการศึกษา ร.ร.สวนกุหลาบวิทยาลัย (มัธยม) คณะรัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยรามคำแหง (ปริญญาตรี เกียรตินิยมอันดับ 2) University of Oregon (ปริญญาโทความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ กฎหมายระหว่างประเทศและมนุษยวิทยา) ด้านการทำงาน สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ปีContinue reading ““ปิติพงศ์” ต้อนรับ “กัณวีร์”นั่งรอง หน.พรรคเป็นธรรมควบประธานยุทธศาสตร์และนโยบายดูแล 4 จว.ใต้”
  • ‘ดร.ปิติพงศ์’ ค้านเปิดทางต่างชาติซื้อที่ แนะช่วยคนไทยเข้าถึงง่ายขึ้นก่อน
    จากที่รัฐบาลมีนโยบายให้ต่างชาติซื้อที่ดินในประเทศได้ โดยแลกกับเม็ดเงินลงทุน ดร.ปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ ชี้ว่าไทยได้ไม่คุ้มเสีย อย่ามองแค่ GDP โต แต่ถ้าคนส่วนใหญ่ยังยากจน มันคือความไม่ #เป็นธรรม ทางเศรษฐกิจ แนะนำว่าช่วยคนรายได้น้อยให้เข้าถึงบ้านและที่ดิน ในราคาถูก ดอกเบี้ยต่ำจะเป็นผลดีกว่า GDP โตแต่คนยังยากจน มันก็คือ #ความเหลื่อมล้ำ ที่หนักขึ้นทุกวัน ประชาชนค่อนประเทศไม่มีที่ดินในครอบครองเพราะเข้าถึงยากทั้งราคาและดอกเบี้ย กลับจะไปหยิบยื่นให้ต่างชาติแลกกับตัวเลข GDP ปลอมๆ มันคือความไม่ #เป็นธรรม ทางเศรษฐกิจต่อประชาชนไทย! #ที่ดิน#GDP#ปิติพงศ์เต็มเจริญ#พรรคเป็นธรรม #ประชาชนต้องเป็นใหญ่#ประชาธิปไตยต้องเป็นธรรม
  • พรรคเป็นธรรม เชิญ “กัณวีร์” สานฝันร่วมงานการเมืองสร้างความเป็นธรรม
    นายกัณวีร์ สืบแสง ประธานมูลนิธิสิทธิเพื่อสันติภาพ ได้รับเชิญจาก ดร.ปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม พบปะ แลกเปลี่ยน พูดคุยเกี่ยวกับสถานการณ์บ้านเมือง และสถานการณ์ทางด้านการเมือง ที่มีการเปลี่ยนแปลงพลิกผันอย่างรวดเร็ว ดร.ปิติพงศ์ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม กล่าวว่า รู้สึกยินดี และเป็นเกียรติอย่างมาก ที่คุณกัณวีร์ ได้ตอบรับคำเชิญเพื่อมาแลกเปลี่ยนพูดคุยเกี่ยวกับสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบัน โดยเฉพาะปัญหาทางด้านสิทธิมนุษยชน มนุษยธรรม ความยุติธรรม ความเหลื่อมล้ำในสังคมที่เกิดขึ้นในประเทศไทย รวมถึงกระบวนการสันติภาพต่างๆ ที่ยังมีปัญหาโดยเฉพาะในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ดร.ปิติพงศ์ เปิดเผยว่า “ในการเข้าพบปะแลกเปลี่ยนพูดคุยครั้งนี้ มีระดับผู้ใหญ่ของบ้านเมืองและผู้ทรงคุณวุฒิ อีก 2-3 ท่านเข้าร่วมด้วย เราได้ใช้เวลาหลายชั่วโมง ร่วมกันหารือ ประเมิน วิเคราะห์สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทางด้านการเมือง สิทธิมนุษยชน เศรษฐกิจ สังคม ทำให้มีการตกผลึกร่วมกันว่า การนำเสนอแนวทางเพื่อแก้ปัญหาของประเทศ เพื่อสู่การปฏิบัติได้จริงนั้น จำเป็นจะต้องเสนอแนวคิดนโยบายผ่านทางพรรคการเมือง ที่มีอุดมการณ์ตรงกัน คือต้องยึดถือว่าเสียงของประชาชนเป็นใหญ่ ประชาชนเป็นเจ้าของประเทศ และเป็นพรรคการเมืองใหม่ ที่พร้อมเปิดกว้าง ตอบรับการสร้างนักการเมืองรุ่นใหม่ เพื่อเข้าทำงานในการเมืองแบบใหม่ โดยผ่านกระบวนการเลือกตั้งจากประชาชน” หัวหน้าพรรคเป็นธรรม กล่าวว่า เราเป็นพรรคใหม่ คนใหม่ การเมืองใหม่ และมีแนวทางที่สื่อสารทางการเมืองอย่างชัดเจนว่า “ประชาชนต้องเป็นใหญ่ ประชาธิปไตยต้องเป็นธรรม” โดยพรรคเป็นธรรมมีความพร้อมเข้าสู่สนามการเลือกตั้ง และเปิดกว้างสำหรับนักการเมืองรุ่นใหม่ที่มีหัวใจเป็นธรรม มาร่วมอุดมการณ์กับพรรคเป็นธรรม
  • พรรคเป็นธรรมโพสต์คลิป “90 ปี ประชาธิปไตยไทย”
    ณ วันนี้“ปีที่ 90 ของประชาธิปไตย”มันนานมากพอแล้วที่ประชาชน ทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย ทุกพื้นที่ต้องหยุดคิด พิจารณาใหม่ ว่าแท้ที่จริงแล้ว ในระบอบประชาธิปไตย“ประชาชน คือ เจ้าของอำนาจ”และพร้อมที่จะลุกขึ้นมาเพื่อ “ก้าวเดินอย่างมั่นคง”ไปยัง “ธงแห่งประชาธิปไตย” ที่แท้จริง ประชาชนต้องเป็นใหญ่ประชาธิปไตยต้องเป็นธรรม ดูคลิป 90 ปี ประชาธิปไตยไทย ได้ในทาง ยูทูบ พรรคเป็นธรรมhttps://youtu.be/uB9A0WWlkA0 เพจเฟสบุ๊ค พรรคเป็นธรรมhttps://fb.watch/dQ7czqSblt/
  • แถลงการณ์พรรคเป็นธรรม
    90 ปี ประชาธิปไตยไทย “ประชาชน” ต้อง เป็นใหญ่ ประชาธิปไตย ต้อง “เป็นธรรม” ภายใต้รัฐธรรมนูญ 13 ฉบับ ตลอดเส้นทางประชาธิปไตย 89 ปี ของประเทศไทย “ประชาชนไม่เคยเป็นใหญ่อย่างแท้จริง” ซ้ำร้าย ยังโดนกดหัว กดตัว กดความคิด กดเสียง ให้ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ภายใต้ระบอบเผด็จการยึดอำนาจ และการสืบทอดอำนาจ ผ่านนักการเมืองที่มุ่งแต่ประโยชน์ส่วนตัว ผ่านการเลือกตั้ง เพียงเพื่อขอ “เสียงประชาชน” ไปเปลี่ยนเป็น “มือในสภา” หยิบฉวย สร้าง และแบ่งปันผลประโยชน์ ส่งต่อมรดก อำนาจ ให้ลูกหลาน บ้านใหญ่ บ้านกลาง บ้านเล็ก ข้ามหัวประชาชน ผู้เป็นเจ้าของประเทศ เจ้าของเสียง เจ้าของอำนาจ ที่แท้จริง เหตุการณ์ผ่านมา 89 ปี จนประชาชน คุ้นชิน และแทบลืมไปแล้วว่า ประชาชน นั่นแหละ คือ ผู้มีอำนาจเหนือนักการเมือง หาใช่นักการเมืองแบบเก่า ที่อิงแอบระบอบเผด็จการครึ่งใบ แอบอ้างระบอบกึ่งประชาธิปไตย ที่ ไม่เป็นธรรม สิ่งที่ประชาชนได้รับอย่างต่อเนื่องยาวนาน ตั้งแต่รุ่น ปู่ย่าตายาย พ่อแม่ พี่น้องจนถึงรุ่นลูกหลาน ในปัจจุบัน คือ ความจนกระจายทั่วทั้งแผ่นดิน ข้างล่างจน ข้างบนรวย เกิด แก่ เจ็บ ตาย ไร้คุณภาพ เกิดความเหลื่อมล้ำ ความไม่เป็นธรรม ทั้งในทางเศรษฐกิจและสังคม คนรุ่นใหม่ ขาดสิทธิ เสรีภาพ ถูกปิดกั้นการแสดงพลัง ประชาชน คนเดินดิน ต้องไร้สิ้นซึ่งคุณภาพชีวิตที่เหมาะสม ในทุกมิติของ เศรษฐกิจ สังคม คุณภาพชีวิต การศึกษา และกฏระเบียบต่างๆของประเทศ จากการรัฐประหารทุกครั้งที่เกิดขึ้น ล้วนเป็นการสืบทอดอำนาจทางการเมือง จากเชื้อชั่วเผด็จการ ผ่านการเลือกตั้ง ที่นักการเมืองดูถูกเสียงประชาชน ด้วยวิธีเดิมๆ ซ้ำแล้วซ้ำอีก ผนวกกับ รัฐบาลที่มีผู้บริหารด้อยประสิทธิภาพContinue reading “แถลงการณ์พรรคเป็นธรรม”
  • ประชาชนต้องเป็นใหญ่ ประชาธิปไตยต้องเป็นธรรม
    จากการที่ “พรรคเป็นธรรม” ซึ่งเป็นพรรคการเมืองใหม่ ได้สื่อสารกับประชาชน บน Billboard ยักษ์ใจกลางกรุงด้วยวาทกรรม “ประชาชนต้องเป็นใหญ่ ประชาธิปไตยต้องเป็นธรรม” นั้น ได้รับการขยายความจาก ดร.ปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม ว่า “ภายใต้ระยะเวลา 90 ปี นับตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตยในปี 2475 รัฐธรรมนูญจำนวน 13 ฉบับ ได้ถูกฆาตกรรม ด้วยการปฏิวัติรัฐประหารมาโดยตลอด เสมือนการฆ่าตัดตอน ไม่ให้ประชาธิปไตยเติบโตเต็มวัย เพื่อรับใช้ประชาชนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และเหตุผลส่วนหนึ่งในการกล่าวอ้างการรัฐประหาร ก็คือการกล่าวอ้างความชอบธรรมจากประชาชน เสมือนการได้รับฉันทานุมัติจากประชาชน ทั้งที่หลังจากนั้นก็มักเกิดวงจรอุบาทว์ สืบทอดอำนาจ แบ่งปันผลประโยชน์กันเอง ใช้อำนาจเกินขอบเขตอย่างไร้ธรรมาภิบาล สร้างความแตกแยกทางความคิด สร้างความแตกต่างทางชนชั้น สร้างการทุจริตคอร์รัปชันเป็นวงกว้าง เนื่องจากไม่สามารถตรวจสอบการกระทำของรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหารได้ รวมทั้งการที่มือในสภามักไม่เคารพ #เสียงประชาชน เพราะได้รับ #กล้วย เป็นผลตอบแทน แต่ก็จะอ้างว่าทำเพื่อประชาชน ซ้ำซาก วนๆ กันไป โดยประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจตัวจริงเองก็ลืมไปเลยว่า ประชาชนเองนั่นแหละ ที่เป็นเจ้าของเสียงนำคนเหล่านั้นเข้าสู่อำนาจบริหาร เข้าสู่ตำแหน่งใหญ่โต แต่นักการเมืองเหล่านี้กลับนำประเทศเข้าสู่วังวนการเมืองแบบเก่าๆ การเมืองที่เห็นกล้วยมีค่ามากกว่าหัวของประชาชน และเมื่อตัดตอนระยะเวลาให้สั้นลงเพื่อให้ยังอยู่ในความทรงจำของประชาชน โดยเฉพาะเหตุการณ์ต่างๆ ในช่วง 8 ปี ที่ผ่านมา หลังการรัฐประหารในปี 2557 #ประเทศไทยมีสภาพเสมือนShutdown #ประชาชนมีสภาพเสมือนShutup ประชาชนไม่อาจมีสิทธิ์ มีเสียง มีเสรีภาพตามระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงได้เลย เพราะถึงแม้จะมีการเลือกตั้ง แต่การเลือกตั้งนั้นก็อยู่ภายใต้กติกาที่คณะรัฐประหารร่างขึ้นมาเพื่อสืบทอดอำนาจ กติกาที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ที่ให้ 250 ส.ว. ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งมาร่วมโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี อีกทั้งยังมีการใช้กฎหมายมาเป็นเครื่องมือเล่นงานคนเห็นต่าง แล้วเอื้อประโยชน์ให้ตนเองและพวกพ้องอย่างไม่เคยมีมาก่อน แต่วันนี้ปีที่ 90 ของประชาธิปไตยไทย สถานการณ์กำลังจะเริ่มเปลี่ยนไป เมื่อความอดทนของประชาชนต่อปัญหาเดิมๆ จากการเมืองเก่าและคนเก่าๆ มาถึงจุดเกินอดทนและแสดงให้เห็นการตอบโต้ โดยเฉพาะเมื่อเกิดผลการเลือกตั้ง #ผู้ว่ากรุงเทพมหานคร ที่ประชาชนเทคะแนนอย่างล้นหลามให้กับผู้สมัครอิสระ ที่ประชาชนเชื่อว่าจะเป็นความหวังใหม่ของการเมืองแบบใหม่ๆ ซึ่งหนึ่งคะแนนของแต่ละคน ก็นำไปสู่ผลรวมแห่งความยิ่งใหญ่ของเสียงประชาชน ที่เป็นเสมือนสัญญาณเตือนให้กับประชาชนทั้งแผ่นดินได้รับรู้แล้วว่า #เสียงของประชาชนมีค่ามีราคาและกำหนดอนาคตได้ วาทกรรม #ประชาชนต้องเป็นใหญ่ประชาธิปไตยต้องเป็นธรรม บน Billboard ของพรรคเป็นธรรม เป็นวาทกรรมหลักของพรรคเป็นธรรม มาตั้งแต่เริ่มตั้งพรรค และเมื่อประกอบกับสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน ที่ประชาชนตื่นรู้และต้องการแสดงออกในอำนาจตนเองContinue reading “ประชาชนต้องเป็นใหญ่ ประชาธิปไตยต้องเป็นธรรม”
  • ยุติธรรมที่ล่าช้า คือ ความไม่เป็นธรรมร้องเรียนเลือกตั้งจะสุจริตเที่ยงธรรมได้กกต.ต้องใช้กฎหมายอย่าง “เป็นธรรม”
    ว่าที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนใหม่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ที่ได้คะแนนจากคนกรุงเทพฯท่วมท้นเกือบ 1.4 ล้านเสียง กำลังถูกร้องเรียนจากการหาเสียงว่าอาจส่อไม่สุจริต ขณะนี้เรื่องอยู่ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะแจ้งผลการพิจารณา โดยสำนวนร้องเรียนที่กกต.กทม.เสนอไปให้กกต.กลาง พิจารณา 2 ประเด็น คือกรณีการจัดทำป้ายหาเสียงเข้าข่ายให้เสนอให้ ประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้ เพื่อจูงใจผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง และการพูดในลักษณะดูถูกระบบราชการ ว่ามีความเกี่ยวข้องที่ทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตเที่ยงธรรมหรือไม่ นายสำราญ ตันพาณิชย์ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร (กกต.กทม.) ระบุว่า เรื่องร้องเรียนผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.และผู้สมัครส.ก.มีทั้งสิ้น 24 เรื่อง โดยนายชัชชาติ ถูกร้องเรียน 2 ประเด็นดังกล่าว ซึ่งเป็นไปตามที่มาตรา 17 พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 กำหนด หากพบว่ามีผลทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตเที่ยงธรรม ก็จะยังไม่ประกาศผลการเลือกตั้ง และให้ไปดำเนินการสืบสวนสอบสวนต่อไปภายในเวลา 60 วันตามที่กฎหมายกำหนด ถ้าเรื่องร้องเรียนพิจารณาแล้วไม่ได้ทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริต ก็จะประกาศผลการเลือกตั้ง ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร ได้ตอบกับผู้สื่อข่าวว่า เรื่องนี้เป็นหลักการพิจารณาที่ใช้กับการเลือกตั้งทุกระดับ ไม่เกี่ยวว่าผู้ได้รับเลือกตั้ง หรือผู้สมัครได้คะแนนนิยมมากหรือน้อย “พรรคเป็นธรรม” ได้รณรงค์ และสนับสนุนให้การเลือกตั้ง ที่สุจริต อิสระ เป็นธรรม มาโดยตลอด และเชื่อว่าสังคมไทยต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงอำนาจที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน แม้ปัจจุบันองค์กรอิสระหลายหน่วยงาน ยังเป็นผลไม้พิษตกค้างจากการรัฐประหารครั้งล่าสุด แม้การพิจารณาคำร้องอย่างไม่เป็นธรรม เริ่มต้นจากการร้องเรียนที่ไม่เป็นธรรม แต่ “พรรคเป็นธรรม” เชื่อว่า ความยุติธรรมก็สามารถยุติได้จากการใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นหน่วยงานหนึ่ง ซึ่งถือว่าเป็นองค์กรอิสระ ที่ถูกกล่าวขวัญมาโดยตลอดตั้งแต่การเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบัตรเขย่ง ความล่าช้า หรือการคิดคะแนนแบบวิจิตรพิสดาร จนได้ส.ส.ปัดเศษมากหน้าหลายตา แม้กระทั่งการแจกบัตรส้มตัดสิทธิ ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ แต่สุดท้ายแล้วไม่มีความผิด จนถูกฟ้องร้องค่าเสียหายทำให้เสียโอกาส และขาดความยุติธรรม ตามด้วยการตัดสิทธิ์ ส.ส.บางคนให้ไม่มีโอกาสเหยียบสภา ไปถึงการชงเรื่องไปสู่การยุบบางพรรคการเมือง สุดท้ายคนไทยได้ตั้งรัฐบาล จากพรรคที่ไม่ใช่อันดับที่หนึ่ง ที่มีนายกรัฐมนตรี ที่ชื่อ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งล้วนแล้วแต่ถูกตั้งคำถามถึงความไม่เป็นธรรม จนมาถึงทุกวันนี้ พรรคเป็นธรรม หวังว่าการใช้กฎหมายที่ไม่เป็นกฎหมาย ควรจะต้องหมดไป และก้าวเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยที่เป็นธรรมอย่างแท้จริงเสียที ได้เวลา ที่ต้องทำกฎหมายให้เป็นกฎหมาย เพราะประชาชนต้องเป็นใหญ่ ประชาธิปไตยต้อง “เป็นธรรม” #พรรคเป็นธรรม#กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย
  • พรรคเป็นธรรมขอแสดงความยินดีกับชาวกรุงเทพฯที่ออกมาแสดงพลังว่านี่คือ “คำสั่ง”ของ “ประชาชน”
    สรุปผลคะแนนการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร 22 พ.ค. 65 (อย่างไม่เป็นทางการ) ครบ 100% จากการนับคะแนนครบทุกหน่วยเลือกตั้ง 6,817 หน่วย มีประชาชนมาใช้สิทธิ 2,673,696 คน จากผู้มีสิทธิทั้งหมด 4,402,948คน คิดเป็นร้อยละ 60.73 มีคะแนนเลือกตั้ง 7 ลำดับแรก ดังนี้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครอิสระ ได้รับคะแนนไปทั้งหมด 1,386,769 คะแนน นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคประชาธิปัตย์ 254,723 คะแนน นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัคร ผู้ว่าราชการ กทม. พรรคก้าวไกล 253,938 คะแนน นายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครอิสระ 230,534 คะแนน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้สมัครอิสระ 214,805 คะแนน รสนา โตสิตระกูล ผู้สมัครในนามอิสระ 79,009 คะแนน นาวาอากาศตรีศิธา ทิวารี ผู้สมัครพรรคไทยสร้างไทย 73,826 คะแนน ส่วนผลการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร หรือ ส.ก. (อย่างไม่เป็นทางการ) จากการนับคะแนนเบื้องต้นซึ่งยังไม่ครบ 100% พอสรุปได้ดังนี้ พรรคเพื่อไทย 20พรรคก้าวไกล 14พรรคประชาธิปปัตย์ 9กลุ่มรักษ์กรุงเทพ 3พรรคพลังประชารัฐ 2พรรคไทยสร้างไทย 2กลุ่มอิสระ – #พรรคเป็นธรรม #ชัชชาติ #เลือกตั้งผู้ว่ากทม
  • พรรคเป็นธรรม ขออภัยจากการที่ต้องยกเลิกกิจกรรม “เดินเล่าก้าวสิบ” อย่างกระทันหัน
    ตามที่ “พรรคเป็นธรรม” ได้ร่วมรณรงค์เชิญชวน ประชาชาชนสนับสนุนการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.อย่างสุจริต อิสระ และเป็นธรรม โดยได้ประชาสัมพันธ์ว่าจะมีกิจกรรมวอล์คแรลลี่ “เดินเล่าก้าวสิบ” 90 ปี ประชาธิปไตย ในเช้าวันอาทิตย์ที่ 8 พฤษภาคมไปแล้วนั้น เพียงก่อนหน้าวันงาน 2 วัน ในขณะที่การจัดเตรียมงานต่างๆได้สมบูรณ์เกือบครบ 100% แล้ว ทางพรรคได้รับการแจ้งเป็นเอกสารย้อนหลัง จากฝ่ายสถานที่จัดงาน “ไม่อนุญาตให้ใช้สถานที่จัดกิจกรรม” โดยระบุว่า พรรคเป็นธรรม ไม่ได้ส่งผู้สมัครในการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. แต่อย่างใด จึงทำให้ต้องยุติการจัดกิจกรรมอย่างกระทันหัน แม้ “พรรคเป็นธรรม” จะมีวัตถุประสงค์ และเจตนารณรงค์เพื่อการเลือกตั้งที่เป็นธรรม ดังจะเห็นได้จากการที่ “พรรคเป็นธรรม” ได้รณรงค์ให้การเลือกตั้งมีความสุจริต โปร่งใส และเป็นธรรม มาตลอดในช่วงการเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาผู้แทนฯ ที่ผ่านมา รวมถึงการเลือกตั้งท้องถิ่น จนถึงการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. การเลือกตั้งสมาชิกสภากทม. และการเลือกตั้งครั้งใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ “พรรคเป็นธรรม” จึงขออภัยจากการที่ต้องยกเลิกการจัดกิจกรรม “เดินเล่าก้าวสิบ” อย่างกระทันหันในครั้งนี้ ทั้งนี้ ทุกท่านที่ได้ลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมงานไว้ก่อนแล้ว ทางพรรคเป็นธรรม จะประสานงานไปยังทุกท่าน ตามชื่อที่อยู่ เบอร์โทร อีเมล เพื่อส่งมอบเสื้อกีฬา เหรียญรางวัล แมส และของที่ระลึกต่างๆ ต่อไป พรรคเป็นธรรมจะไม่หยุดยั้งที่จะมุ่งมั่นสร้าง “ความเป็นธรรม”แต่เราจะยิ่งมุ่งรวมพลังสร้างสรรค์และสนับสนุนให้เกิด “ความเป็นธรรม” ในสังคมต่อไปอย่างสุดกำลัง กิจกรรมครั้งต่อไปที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร โปรดติดตามสอบถามเราได้ โทร. 0630153015 , 0830153015 Line Official ID : @FairParty คลิกแอดไลน์ https://lin.ee/ldsDVL9 พรรคเป็นธรรม ขอขอบคุณ และขออภัยมา ณ ที่นี้ พรรคเป็นธรรม8 พฤษภาคม 2565 #พรรคเป็นธรรม
  • แรงงาน ก็มีหัวใจ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ต้องได้ สวัสดิการ ที่ เป็นธรรม
    เพราะแรงงาน ไม่ใช่ทาส หรือไพร่ ของนายจ้าง แต่แรงงาน คือ ทรัพยากรของชาติ คือ พลังสร้างสรรค์เศรษฐกิจ คือ พลังชีวิตให้กับประเทศ การคืนความเป็นธรรมให้แรงงานไทย คือ หัวใจการพัฒนาคน การสร้างความเป็นธรรมให้กับแรงงาน เป็นหนึ่งในนโยบาย ด้านสังคม และเศรษฐกิจ ของพรรคเป็นธรรม “พรรคเป็นธรรม” วันแรงงานแห่งชาติ 1 พฤษภาคม 2565
  • ได้เวลาเป็นธรรม กับ ดร.ปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม
    รู้จัก “พรรคเป็นธรรม” ใน 5 นาที • ที่มาและที่ไป• Motto• ตราสัญลักษณ์• ค่านิยม• นโยบาย• การมีส่วนร่วม• มุมมองการเมือง• แนวคิดเกี่ยวกับคนรุ่นใหม่• ความพร้อมของพรรคเป็นธรรม
  • “พรรคเป็นธรรม” เปิดตัว “สรยุทธ” นั่งเลขาธิการฯ คนใหม่ ดร. ปิติพงศ์พร้อมส่งผู้สมัครครบ 400 เขต ประเมินพรรคจะได้ ส.ส.15 คน
    “พรรคเป็นธรรม” จัดการประชุมใหญ่ประจำปี 2565 โดย ดร. ปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม ได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2565 ณ ห้องภาณุรังษี โรงแรมรอยัลริเวอร์ โดยมีผู้บริหาร และสมาชิกพรรค เข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียง และผลการประชุมทำให้พรรคเป็นธรรมได้ผู้บริหารชุดใหม่ คือ นายสรยุทธ เพ็ชรตระกูล ดำรงตำแหน่ง เลขาธิการพรรค มาแทนคนเดิม คือ ดร.ชุมพล ครุฑแก้ว ในงานแถลงข่าวเปิดตัว ได้มีการเสวนา ในหัวข้อ “ประชาธิปไตยที่เป็นธรรม” เพื่อแสดง วิสัยทัศน์ แนวคิด แนวทาง จุดยืน อุดมการณ์ และนโยบาย ในการขับเคลื่อนทางการเมือง เพื่อพัฒนาประเทศ และรับใช้ประชาชนทุกระดับ ในฐานะตัวเลือกใหม่ของการเมืองไทย ดร.ปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม เปิดเผยว่า “พรรคเป็นธรรม” เป็นพรรคใหม่ คนใหม่ เพื่อการเมืองใหม่ มีจุดยืนและอุดมการณ์ชัดเจน “ประชาชนต้องเป็นใหญ่ ประชาธิปไตยต้องเป็นธรรม” พรรคเป็นธรรม มีนโยบายที่เป็นรูปธรรม ปฏิบัติได้เพื่อตอบสนองความต้องการของสามัญชน คนทุกเพศ ทุกวัย ทุกพื้นที่ ภายใต้บริบทบริหารประเทศ 5 มิติ คือ เศรษฐกิจ สังคม คุณภาพชีวิต การศึกษา และ กฏหมาย โดยมี Motto นโยบายพรรคว่า “ SPEED นำไทยไปข้างหน้า” “บัดนี้ ได้เวลาเป็นธรรม พรรคเป็นธรรม พร้อมแล้ว สำหรับกิจกรรมทางการเมืองเพื่อการเลือกตั้งที่จะมาถึงในอนาคตอันใกล้ ดังนั้น พรรคเป็นธรรมจึงขอเชิญชวน คนรักประชาธิปไตยและมีหัวใจรักความเป็นธรรม เข้ามามีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงการเมือง เพราะ ประชาชน ต้องเป็นใหญ่ ประชาธิปไตย ต้องเป็นธรรม” ดร.ปิติพงศ์ กล่าว ดร.ปิติพงศ์ ยืนยันว่า “พรรคเป็นธรรม มีความพร้อมที่จะส่งตัวแทนลงสัมครเลือกตั้ง ส.ส.ทั้ง 400 เขต แต่จะมีโอกาสได้ทั้งหมดกี่ที่นั่งนั้นContinue reading ““พรรคเป็นธรรม” เปิดตัว “สรยุทธ” นั่งเลขาธิการฯ คนใหม่ ดร. ปิติพงศ์พร้อมส่งผู้สมัครครบ 400 เขต ประเมินพรรคจะได้ ส.ส.15 คน”
  • ผุดบิลบอร์ดยักษ์ “ได้เวลา..เป็นธรรม”“พรรคเป็นธรรม” พร้อมสู่การเลือกตั้ง
    ภาพนาฬิกาปลุกขนาดยักษ์เป็นตัวอักษร “ปธ” ปรากฏบนป้ายบิลบอร์ดใหญ่ ริมถนนราชพฤกษ์มุ่งสู่สาทร เปิดตัวพรรคการเมืองใหม่ชื่อ “พรรคเป็นธรรม” ภายใต้คำนิยามว่า พรรคใหม่ คนใหม่ การเมืองใหม่ ประชาธิปไตยที่ “เป็นธรรม“ พร้อมนัดสื่อแถลงข่าวเปิดตัวอย่างเป็นทางการ อาทิตย์ 27 มี.ค.นี้ เวลา 14.00 น. ที่รร.รอยัลริเวอร์ ดร.ปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม เปิดเผยว่า พรรคเป็นธรรม จะมีการประชุมสามัญครั้งใหญ่ในวันที่ 27 มีนาคมที่จะถึงนี้ พร้อมเปิดตัว พรรคใหม่ คนใหม่ สำหรับการเมืองใหม่ และเปิดตัวคณะทำงานของพรรค รวมถึงนโยบายของพรรค ที่จะนำเสนอสู่ประชาชนในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่อาจเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้ในเร็ววันนี้ พรรคเป็นธรรมมีความพร้อมสูงสุด เพื่อสู่สนามเลือกตั้งครั้งที่จะเกิดขึ้นถัดไปนี้อย่างแน่นอน การขึ้นป้ายยักษ์ในแคมเปญ “ได้เวลา เป็นธรรม” ปลุกผู้คนด้วยภาพนาฬิกาปลุกขนาดยักษ์วางลงตรงกลางอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย คือการยืนยันว่า พรรคเป็นธรรม พร้อมแล้วที่จะลงสู่สนามเลือกตั้งโดยประชาธิปไตยที่เป็นธรรม และเพื่อรับใช้พี่น้องประชาชน “เพราะการเมืองแบบเก่าๆ ไม่สามารถตอบโจทย์ประชาชนได้อีกต่อไป พรรคเป็นธรรมจึงเสนอทางเลือกในฐานะพรรคใหม่ คนใหม่ การเมืองใหม่ เราเตรียมนโยบายเพื่อบริหารประเทศด้วยนโยบายใหม่ ที่ทำได้จริง ซึ่งพรรคเป็นธรรม ทำเป็น และทำได้แน่” ดร.ปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม กล่าว พรรคขอเรียนเชิญสื่อมวลชน และผู้ที่สนใจร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัว “พรรคเป็นธรรม” ที่ห้องภาณุรังษี โรงแรมรอยัลริเวอร์ เชิงสะพานกรุงธน(ซังฮี้) ในวันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคมนี้ ในเวลา 14.00 น. (ตรวจ ATK ได้ที่จุดลงทะเบียนหน้างาน) สื่อมวลชนแจ้งลงทะเบียนล่วงหน้า ได้ที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ พรรคเป็นธรรม โทร. 06 3015 3015 หรือ LINE Official ID : @FairParty #พรรคใหม่#เป็นธรรม#พรรคเป็นธรรม#เปิดตัวพรรคใหม่
  • คนไทย รักประชาธิปไตยสังคมไทย จะต้อง “เป็นธรรม”
    สุขสันต์วัน #วาเลนไทน์ แด่คนไทยที่มีหัวใจ #เป็นธรรม#พรรคเป็นธรรม#พรรคใหม่ คนใหม่ การเมืองใหม่
  • รัฐธรรมนูญ ปีที่ 90
    หอมกลิ่น “ประชาธิปไตย”“เผด็จการ” จงรีบไป“เลือกตั้งใหม่” ให้เร็ววัน “เป็นธรรม” พร้อมนำไทยพาไปไกล ไปข้างหน้าS P E E D ให้เร็ว จงอย่าช้าไปข้างหน้า “ประชาธิปไตย” พรรคใหม่ คนใหม่ต้อนรับ Valentine หัวใจ ไร้มลพิษ
  • สวัสดีปีใหม่จีน #ตรุษจีน2565 ได้เวลาคืนความสุขที่แท้จริงให้คนไทย ได้เวลาประชาธิปไตยที่ #เป็นธรรม
    พรรคเป็นธรรม ขอสวัสดีปีใหม่กับคนไทยเชื้อสายจีนทุกคน ขอให้ทุกท่านประสบความสำเร็จ สมปรารถนา มั่งมีศรีสุข ร่ำรวยเงินทอง ค้าขายดีตลอดปี และขอให้มีนายกคนใหม่โดยเร็ว เพราะประชาธิปไตยที่เป็นธรรม จะทำให้เกิดเศรษฐกิจที่เป็นธรรม เมื่อเศรษฐกิจเป็นธรรม ประชาชน 99% ของประเทศ ก็จะทำมาค้าขายรุ่งเรือง เงินทองไหลมาเทมา ไม่ใช่นายทุนใหญ่และเจ้าสัวเพียง 1% #ประชาธิปไตยที่เป็นธรรม เพื่อเศรษฐกิจและสังคมที่เป็นธรรมแก่ทุกคน
  • ทวงความ #เป็นธรรม ให้หมอกระต่าย
    จากกรณีข่าวสลดที่ตำรวจ คฝ. ซิ่งบิ๊กไบค์ชนหมอกระต่ายเสียชีวิตคาทางม้าลาย จนสร้างความสูญเสียให้วงการจักษุแพทย์เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะคุณหมอกระต่ายที่ได้เรียนจบสาขาเฉพาะทาง ซึ่งมีไม่ถึง 50 คนในประเทศไทย การดำเนินคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น เป็นที่น่ากังขาและถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก ถึงมาตรฐานของกระบวนการยุติธรรมในบ้านเมือง ตั้งแต่การปล่อยตัวโดยไม่ใช้หลักประกัน ถึงแม้จะเป็นข้อหาขับรถโดยประมาทจนทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ในขณะที่นักโทษทางความคิด ซึ่งไม่ได้ฆ่าใครตาย กลับไม่ได้รับการประกันตัว คุณป้าขายไข่ไก่เกินราคาในตลาดสดแล้วถูกจับ กลับต้องใช้เงินประกันตัวสูงถึง 100,000 บาท อีกทั้งยังมีข่าวว่า นายตำรวจคนดังกล่าวได้เดินทางไปตรวจสายตาว่ามัวหรือไม่ หลังเกิดเหตุรถชนคุณหมอกระต่าย จนสังคมตั้งข้อสงสัยว่าจะนำมาใช้ประกอบการสู้คดี ว่าที่รถชนไปเพราะสายตาไม่ดีหรือไม่ รวมถึงข้อพิรุธในการใช้รถมอเตอร์ไซค์ผิดกฎหมาย ทั้งไม่มีทะเบียนรถ ไม่มีกระจก และไม่เสียภาษีมาใช้ในทาง ทั้งๆ ที่เป็นตำรวจ และยังมีข้อพิรุธเรื่องที่มาของรถบิ๊กไบค์ ว่าได้มาจากไหน เป็นรถของกลางตามที่สังคมตั้งข้อสงสัยหรือไม่อย่างไร ต่อเนื่องมาจนถึงการให้สัมภาษณ์ของตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในรายการ #โหนกระแส ในลักษณะของการปกป้องลูกน้อง ว่าการฝ่าฝืนกฎเกณฑ์ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ รวมไปถึงการเร่งบวชนายตำรวจคนดังกล่าว ทั้งๆ ที่ขัดต่อหลักพระธรรมวินัย ซึ่งไม่สามารถบวชได้ แต่กลับปรากฎข่าวว่ามีนายตำรวจยศพันตำรวจตรียืนยันการบวชโดยไม่ใช้เอกสาร เพื่อขอให้บวชนายตำรวจคนดังกล่าว ทั้งหมดนี้ล้วนแต่สร้างความไม่สบายใจ และสร้างความเคลือบแคลงสงสัยแก่สังคมเป็นอย่างมาก ว่าคดีนี้จะไม่โปร่งใสและไม่เป็นธรรมกับครอบครัวผู้เสียชีวิต อาจมีการเอื้อประโยชน์แก่พวกพ้องในองค์กร และอาจมีการกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อช่วยเหลือกันให้ไม่ได้รับโทษตามกฎหมาย อย่างที่ควรจะเป็น พรรคเป็นธรรม ในฐานะพรรคการเมืองที่มีอุดมการณ์เพื่อปกป้องความเป็นธรรมในสังคม ขอทวงถามและเรียกร้องความเป็นธรรมในคดีนี้ โดยขอให้สำนักงานตำรวจ แห่งชาติ (สตช.) ดำเนินคดีนี้อย่างตรงไปตรงมา ให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างถึงที่สุด อย่าเอื้อประโยชน์ให้คนในองค์กร อย่าผลิตซ้ำวัฒนธรรมลอยนวลพ้นผิด (culture of impunity) โดยเฉพาะที่เกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อคืนความเชื่อมั่นให้กระบวนการยุติธรรมของบ้านเมือง คืนความเป็นธรรมให้ครอบครัวผู้เสียชีวิต และดำรงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายต่อไป พรรคเป็นธรรม25 ม.ค. 2564
  • เลือกตั้ง”เป็นธรรม”โปร่งใส ไร้ทุจริต! ทุกหน่วยติดกล้องวงจรปิด เกาะติดนับคะแนนเรียลไทม์ ตรวจสอบได้บนบล็อกเชน
    พรรคเป็นธรรม ขอเชิญชวนประชาชนคนไทย สื่อมวลชน สื่อโชเชียลเน็ตเวิร์ก ทุกองค์กร ทุกพรรคการเมือง และหน่วยงานรัฐบาล มาร่วมกันทำทุกคะแนนเสียงเลือกตั้ง ให้สุจริต โปร่งใส ด้วยการผลักดัน สนับสนุน กกต. ใช้เทคโนโลยีง่ายๆ ทำให้การเลือกตั้ง เป็นธรรม โปร่งใส ตรวจสอบได้ ไร้ทุจริต การจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ครั้งใหญ่ที่ผ่านมา ถูกมองว่าไม่น่าเชื่อถือ มีเงื่อนงำ มีข้อสงสัยมากมายที่ไม่สามารถชี้แจงได้ จนแทบไม่เป็นไปตามคำขวัญคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ว่า “สุจริต โปร่งใส และเที่ยงธรรม” สังคมไทย สื่อไทย สื่อนานาอารยประเทศ ต่างวิพากษ์วิจารณ์ขั้นตอนต่างๆ ในเชิงลบ เช่น รายงานผลคะแนนล่าช้า จำนวนบัตร คะแนนที่นับได้กับผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งไม่ตรงกัน ปรากฏคะแนนเขย่ง บัตรเลือกตั้งสูญหาย หรือมีบัตรเพิ่มเกินจำนวนผู้มีสิทธิ์ ฯลฯ จนส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นต่อหลักการประชาธิปไตย ทำให้ผู้แทนราษฎรที่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาจำนวนไม่น้อยถูกมองว่าไม่มีความสง่างาม พรรคเป็นธรรม ในฐานะองค์กรทางเมืองที่ยืนหยัดสนับสนุนความเป็นธรรม อยากเห็นการจัดการเลือกตั้งของ กกต. และการได้มาซึ่ง ส.ส. ครั้งต่อไป มีความบริสุทธิ์ยุติธรรม ปราศจากข้อสงสัย ซึ่งสามารถแก้ไขได้ ด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศวิธีการง่ายๆ แต่ได้ผล แม่นยำ และมีประสิทธิภาพ ลงทุนน้อย ลดข้อโต้แย้งในประเด็นความไม่สุจริต ซึ่งทำได้ โดยการติดตั้งกล้อง Web Cam ผ่านโทรศัพท์มือถือในระบบ Internet Block Chain บันทึกภาพการมาใช้สิทธิ์ที่หน่วยเลือกตั้งทุกจุด เพื่อเก็บภาพ และจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ให้เป็นหลักฐานยืนยันแน่ใจว่า จำนวนผู้มาลงคะแนน และคะแนนที่นับได้จะต้องตรงกัน ไม่มีการทุจริตของผู้ใด หน่วยงานใด พรรคใด ไม่มีบัตรเขย่ง คะแนนไม่ตรง ฯลฯ ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ เกิดการยอมรับและ “เป็นธรรม” กับทุกฝ่ายอย่างไม่มีข้อสงสัย สร้างความน่าเชื่อถือกับ กกต.ว่าได้จัดการเลือกตั้งอย่างสุจริต โปร่งใส และเที่ยงธรรม ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ ประเทศไทยจะได้ผู้แทนราษฎรที่ชนะคะแนนเลือกตั้งที่มีศักดิ์ศรี เมื่อได้ ส.ส.ที่มาจากคะแนนเสียงแท้จริง เป็นผู้แทนของประชาชนได้อย่างเต็มภาคภูมิ เราก็จะได้รัฐบาลที่มาจากคะแนนเสียงข้างมากของประชาชนอย่างแท้จริง พรรคเป็นธรรม เชื่อมั่นว่า ประชาธิปไตยที่เป็นธรรม ต้องมาจากการเลือกตั้งที่เป็นธรรมContinue reading “เลือกตั้ง”เป็นธรรม”โปร่งใส ไร้ทุจริต! ทุกหน่วยติดกล้องวงจรปิด เกาะติดนับคะแนนเรียลไทม์ ตรวจสอบได้บนบล็อกเชน”
  • สารจากพรรคเป็นธรรมถึงประชาชน
    “ประชาธิปไตยที่เป็นธรรม” คือ ประชาธิปไตยที่ให้สิทธิ เสรีภาพกับประชาชน ในการกำหนดความต้องการผ่านการเลือกตั้งที่โปร่งใส บริสุทธิ์ ยุติธรรม ภายใต้ กฏ และกติกา ตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งเสียงของประชาชนทุกเสียงคือเสียงบริสุทธิ์ที่ไม่ควรมีใครมากำหนด กำกับ เบี่ยงเบน หรือแปรเปลี่ยนไปในทางทุจริต และทำให้เสียงอันมีคุณค่า และทรงพลังเหล่านั้นไม่เป็นไปตามความประสงค์ของประชาชนผู้ลงคะแนน “การเลือกตั้งที่เป็นธรรม” คือ การเลือกตั้งที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการที่มีความโปร่งใส บริสุทธิ์ ยุติธรรม ผนวกกับการมีส่วนร่วมของประชาชนทุกภาคส่วนในฐานะผู้ลงคะแนน ซึ่งสามารถร่วมรับรู้และร่วมตรวจสอบความผิดปกติที่ไม่พึงประสงค์จากกระบวนการเลือกตั้ง คู่ขนานไปกับการทำงานของภาครัฐ องค์กรต่างๆ และสื่อมวลชนที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรง เพื่อให้คะแนนเสียงของประชาชนมีความบริสุทธิ์ และได้ผลการเลือกตั้งที่เป็นธรรมที่สุด “พรรคเป็นธรรม” เป็น ”พรรคใหม่” ที่พร้อมจะก้าวเดินบนเส้นทางประชาธิปไตยร่วมกับประชาชนทุกเพศ ทุกวัย ทุกพื้นทีของประเทศเพื่อให้การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2565 นี้มีความบริสุทธิ์ ยุติธรรม โปร่งใส ตรวจสอบได้ ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังการเลือกตั้งอย่างเป็นรูปธรรมสำหรับการเป็นบรรทัดฐานในการบริหาร จัดการ และพัฒนาการการเลือกตั้ง โดยเฉพาะการป้องกัน ป้องปราม ตรวจสอบ เหตุผิดปกติ หรือเหตุไม่พึงประสงค์ต่างๆเหมือนที่เคยเกิดกับการเมืองเก่าๆที่ผ่านมาโดยตลอด “พรรคเป็นธรรม” เชื่อมั่น และเคารพในเสียงของประชาชนที่จะเปลี่ยนจากเสียงของผู้ลงคะแนนไปเป็นมือของนักการเมืองในสภา ดังนั้น “เสียงของประชาชนต้องใหญ่กว่า มือในสภา เสมอ” โดยเฉพาะเสียงที่บริสุทธิ์ของประชาชนก็จะได้มือที่สะอาดในสภาซึ่งจะกลายเป็นมือที่นำประโยชน์กลับคืนสู่ประชาชน มากกว่านำมือไปยื้อแย่งแบ่งประโยชน์กันเองในสภาโดยไม่เคยเคารพประชาชน “พรรคเป็นธรรม” สนับสนุนการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ ยุติธรรม และยินดีร่วมกับประชาชนทุกภาคส่วน องค์กรที่เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจสอบกระบวนการเลือกตั้งให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของประชาชน โดยแท้จริง “เสียงของประชาชนต้องใหญ่กว่า มือในสภา ตลอดไป” พรรคเป็นธรรมพรรคใหม่ คนใหม่ การเมืองใหม่ประชาธิปไตยที่เป็นธรรม
  • ระหว่างฉีดวัคซีนสูตรไขว้ ที่ผลการวิจัยรองรับน้อยมาก กับการรอวัคซีนโมเดอร์นา ที่เลื่อนออกไปเรื่อยๆ ทำไมคนไทยถึงมีทางเลือกแค่นี้ ?
    ในหลายๆ ประเทศ มีวัคซีนเกือบครบทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนเชื้อตาย วัคซีน mRNA วัคซีนเทคโนโลยี sub-protein base และวัคซีนเทคโนโลยี viral vector ให้บริการประชาชน ตามความเหมาะสมของแต่ละคน เพราะแต่ละคนก็มีสภาพร่างกาย มีข้อจำกัดในการได้รับวัคซีนที่แตกต่างกัน แต่เมื่อหันกลับมามองประเทศไทย ทางเลือกของคนไทยในการฉีดวัคซีนทุกวันนี้มีน้อยมาก ทางเลือกหลักของคนไทยในตอนนี้ คงมีเพียงแค่ 2 ทาง คือ 1.ได้รับ #วัคซีนสูตรไขว้ Sinovac และ AstraZeneca ที่ไทยใช้เป็นประเทศแรกๆ ของโลก และยังไม่ค่อยมีประเทศใดรองรับการฉีดสูตรไขว้นี้ เนื่องจากมีงานวิจัยรองรับน้อยมาก และแทบจะไม่มีเลยด้วยซ้ำ หรือ 2.รอวัคซีน #โมเดอร์นา อย่างไร้ความหวัง เพราะถูกเลื่อนการส่งมอบจากเดือนตุลาคม มาเป็นเดือนพฤศจิกายน และไม่มีสิ่งใดการันตีว่าจะได้รับในช่วงเวลานั้น เนื่องจากตามสัญญา ระบุเพียงว่าจะได้รับภายในปีนี้เท่านั้น แต่ไม่ระบุวันเวลาส่งมอบที่ชัดเจน จึงไม่ต่างอะไรจากการรออย่างไร้ความหวัง คนไทยจ่ายเงินจอง pre-order ไปแล้ว ซึ่งวัคซีนโมเดอร์นาในราคาครบโดส ราคาโดยประมาณอยู่ที่ 3,500-3,800 บาท ซึ่งคิดเป็น 10 เท่า ของค่าแรงขั้นต่ำในประเทศไทย หรือคิดเป็นเกือบ 40% ของเงินเดือนแรงงานในไทย แต่กลับเป็นวัคซีนที่ไม่มีความแน่นอนสูงที่สุด คนไทยต้องรอเก้อ ขอคืนเงินจองวัคซีนก็ไม่ได้ ต้องรออย่างไร้ความหวัง เสียโอกาสฉีดวัคซีนเพื่อเป็นเครื่องมือป้องกันโรคระบาดให้แก่ตนเอง ทั้งๆ ที่วัคซีนทุกชนิด ทุกยี่ห้อ ควรเป็นหน้าที่ของรัฐบาลในการจัดหามาให้คนไทยฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อป้องกันและขจัดโรคติดต่อร้ายแรงให้แก่ประชาชน ตามที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 47 ระบุไว้ แต่คนไทยกลับต้องเสียเงินซื้อเอง ส่วนวัคซีนที่รัฐบาลจัดหาให้ ก็ล่าช้าและแทบไม่มีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อโควิดสายพันธุ์กลายพันธุ์ จนทำให้คนไทยต้องติดเชื้อโควิดล้านกว่าราย และทำให้คนไทยต้องสูญเสียนับหมื่นชีวิต หากเรามีรัฐบาลที่ดีและทำเพื่อประชาชน คนไทยจะต้องมีทางเลือกในการได้รับวัคซีนที่หลากหลาย เหมาะสมกับผู้คนในแต่ละช่วงวัย ตามแต่สุขภาพร่างกายของแต่ละคน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย หาใช่เหลือทางเลือกในการได้รับวัคซีนเพียง 2 ทางเลือกหลักเช่นนี้ ซ้ำร้ายทางเลือกแรก ก็เป็นทางเลือกที่ไม่ค่อยมีประเทศไหนรองรับสูตรไขว้ดังกล่าว งานวิจัยที่ศึกษาก็มีอยู่น้อยมาก ส่วนอีกทางเลือกหนึ่งก็ต้องจ่ายเงินเองในราคาที่สูง และต้องรออย่างไร้ความหวัง การที่คนไทยถูกบีบให้เหลือเพียง 2 ทางเลือกเช่นนี้ไม่ #เป็นธรรม กับคนไทยเลยแม้แต่น้อย รัฐบาลต้องเร่งนำเข้าวัคซีนหลากหลายเทคโนโลยีเข้ามาในประเทศ เร่งใช้การทูตเจรจา เพื่อเร่งรัดการส่งมอบวัคซีนมาถึงแขนคนไทยให้ได้โดยเร็ว เพราะContinue reading “ระหว่างฉีดวัคซีนสูตรไขว้ ที่ผลการวิจัยรองรับน้อยมาก กับการรอวัคซีนโมเดอร์นา ที่เลื่อนออกไปเรื่อยๆ ทำไมคนไทยถึงมีทางเลือกแค่นี้ ?”
  • “พรรคเป็นธรรม” ติงรัฐ การเลิกจ้างครูวิทย์-คณิตยิ่งสร้างความไม่เป็นธรรม ทำเด็กไทยล้าหลังอาเซียน
    ดร.ปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม เปิดเผยว่า จากกรณีที่ สำนักงานการศึกษาขึ้นพื้นฐานหรือ สพฐ. มีหนังสือถึง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เรื่องการการเลิกจ้าง “ครูวิทย์-คณิต” จำนวน 2,000 คน การกระทำดังกล่าว ถือว่าเป็นการทำลายระบบการศึกษาไทยอย่างร้ายแรง การอ้างว่าไม่มีการตั้งงบประมาณไว้ เป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น ทั้งๆที่การศึกษาไทยเป็นการลงทุนเพื่ออนาคต ดังนั้นกระทรวงศึกษาควรที่จะทบทวนการเลิกจ้งครู เพราะจะส่งผลให้ครูอัตราจ้างเหล่านี้ต้องตกงาน โดยไม่ได้รับการเยียวยา ไร้การดูแล ไม่แคร์ ไม่สนใจ ปัญหาที่เกิดขึ้น ดร.ปิติพงศ์ กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันจำนวนครูที่มีอยู่ไม่เพียงพอต่อการเรียนการสอน บางโรงเรียนครูหนึ่งคนต้องสอนทุกวิชา ดังนั้นการลดจำนวนครูลงจึงไม่เหมาะอย่างยิ่ง เพราะส่งผลกระทบกับนักเรียน อีกทั้งความสามารถด้านการวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ของนักเรียนไทยอยู่รั้งท้ายในอาเซียนอยู่แล้ว หากเลิกจ้างครูเหล่านี้ จะยิ่งส่งผลร้ายกับนักเรียนทั่วประเทศหนักขึ้น “ก่อนหน้านี้ นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เคยรับปากกับคณะกรรมาธิการศึกษา สภาผู้แทนราษฎรว่าจะดำเนินโครงการนี้ต่อ แต่กลับตัดงบประมาณโครงการ ทำให้ต้องเลิกจ้างครูอัตราจ้างจำนวนมากนั้น ไม่มีความเป็นธรรม ถือเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดขอกระทรวงศึกษา จึงขอให้ทบทวนใหม่ เพื่อยุติการทำลายอนาคตของเด็กไทย” หัวหน้าพรรคเป็นธรรม กล่าว
  • “ปิติพงศ์” แนะ “ประยุทธ์” ใช้กองทัพรบกับโควิด ดึงโรงงานเภสัชกรรมทหารผลิตยาฟาวิพิราเวียร์ เร่งใช้ทรัพยากรกองทัพที่มาจากภาษีประชาชนอย่างคุ้มค่า
    วันที่ 3 สิงหาคม 2564 นาย ปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เพิ่มสูงขึ้น การบริหารงานที่ล่าช้าของรัฐ เช่น การจัดหาวัคซีน และการเข้าถึงการป้องกัน การรักษาตัวของประชาชนเป็นเรื่องที่ยุ่งยากมาก ทำให้ประชาชนหลายหมื่นคนต้องรักษาตัวเองที่บ้าน หลายคนไม่มีแม้กระทั่งยารักษาตัว ส่งผลให้อาการทรุด หลายคนต้องตายอย่างอนาถ หลายคนที่ควรจะรักษาได้ทันแต่กลับต้องเสียชีวิต จากปัญหาที่เกิดขึ้น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ควรที่จะสั่งการให้ทุกหน่วยงานในกระทรวงกลาโหม ที่นับว่ามีความพร้อมมากที่สุด เพราะมีทั้งโรงงานเภสัชกรรมทหาร มีความสามารถผลิตยาตามสูตรอย่างมีมาตรฐาน และมีกำลังการผลิตได้ในระดับดีเยี่ยม เป็นหน่วยงานที่จะผลิตยาฟาวิพิราเวียร์ เป็นยาต้านเชื้อไวรัสที่อยู่ในสูตรยารักษาผู้ป่วย ไปช่วยเสริมการผลิตยาฟาวิพิราเวียร์ของไทย ให้ทันต่อความต้องการในการรักษาชีวิตประชาชนที่ป่วยโควิด-19 ถึงเดือนละประมาณ 30 ล้านเม็ด หัวหน้าพรรคเป็นธรรม เสนอแนะว่า“ประเทศไทยมีโรงพยาบาลทหาร และหน่วยเสนารักษ์ทั่วประเทศ ที่ช่วยแบ่งเบาภาระได้ นอกจากนี้ในค่ายทหารต่างๆมีอาคาร สโมสร ที่พร้อมในการปรับพื้นที่เป็นโรงพยาบาลสนามได้ เพราะมีนักเรียนพยาบาล 4 เหล่าทัพ ปีสุดท้าย ที่มีทักษะในการฉีดยาได้ มีจำนวนประมาณ 400 คน นักเรียนแพทย์ทหาร ปี 5-6 มีราว 100 คน รัฐบาลต้องใช้ทรัพยากรจากกองทัพที่ล้วนมาจากภาษีประชาชนไปช่วยประชาชนอย่างเร็วที่สุด เร่งใช้ศักยภาพที่มีให้เกิดประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด”
  • “พรรคเป็นธรรม” พรรคใหม่ คนใหม่ การเมืองใหม่
    “พรรคเป็นธรรม” ปล่อยคลิปแนะนำพรรค ประกาศตัวเป็นพรรคใหม่ คนใหม่ การเมืองใหม่ พร้อมนำไทยไปข้างหน้า เปิดรับคนรุ่นใหม่ ที่รักประชาธิปไตย เข้าเป็นสมาชิกพรรค เพื่อร่วมงานการเมือง สร้างสังคมไทยให้ “เป็นธรรม” ด้วยประชาธิปไตย ที่ “เป็นธรรม” #พรรคเป็นธรรม #เป็นธรรม #ประชาธิปไตย
  • แถลงการณ์ “พรรคเป็นธรรม”กรณี ข้อคิดเห็น และข้อเสนอแนะ การบริหารจัดการวิกฤตโควิด–19
    ข้อคิดเห็นของพรรคเป็นธรรม 1. นับตั้งแต่ วิกฤต โควิด-19 ที่ลามระบาดไปทั่วโลกและส่งผลกระทบถึงประเทศไทยอย่างชัดเจนตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน “พรรคเป็นธรรม” มีความเห็นว่า รัฐบาลขาดวิสัยทัศน์ และการปฏิบัติการที่ล้มเหลว เนื่องจากรัฐบาล มุ่งแต่นโยบายเชิงรับ ด้วยการควบคุม และป้องกันเท่านั้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชนโดยทั่วไป โดยเฉพาะผู้ประกอบกิจการธุรกิจระดับรายย่อย และผู้มีรายได้ลักษณะหาเช้ากินค่ำ การเยียวยาของรัฐบาล ก็เป็นการดำเนินการก่อหนี้ และแจกเงิน โดยขาดประสิทธิภาพในการบริหารจัดการให้เกิดการหมุนเวียนอย่างทั่วถึง รวมทั้งขาดความรับผิดชอบต่อผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งภาระหนี้สินของประเทศ ก็จะตกถึงประชาชนทุกคนเพิ่มมากขึ้นเป็นทวีคูณถึงรุ่นลูก รุ่นหลาน นอกจากนั้น การออก พรก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ อย่างต่อเนื่องไปเรื่อยๆ โดยอ้างถึงสภาวะการณ์การควบคุมด้านสาธารณสุข เพื่อหวังให้มีความเคร่งครัดเด็ดขาด แต่ผลที่เกิดขึ้นคือ แม้ประชาชนทั่วประเทศให้ความร่วมมือ ตั้งการ์ดอย่างรัดกุม และยอมเจ็บตัว ลำบากในการใช้ชีวิตประจำวัน แต่การแพร่ระบาดกลุ่มใหญ่ กลับเกิดจากภาครัฐ และอภิสิทธิ์ชน กลุ่มย่อย ซึ่งในที่สุด ก็ไม่มีใครต้องรับผิดชอบต่อการลุกลามใดๆทั้งสิ้น แสดงให้เห็นถึง “ความไม่เป็นธรรม” และการขาดประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มคนพิเศษ ทั้งหมดนี้ คือความล้มเหลวในเรื่องวิสัยทัศน์การบริหารจัดการ เชิงรับ และรุก ต่อวาระวิกฤติการสาธารณสุขของประเทศ รวมทั้งยังสะท้อนให้เห็นการเป็นรัฐบาลอภิสิทธิ์ชน ที่มุ่งเข้มงวดต่อประชาชนระดับ “คนธรรมดา” แต่ผ่อนคลายกับประชาชนเฉพาะกลุ่มระดับ “คนพิเศษ” 2. เมื่อการแพร่ระบาดระลอกใหม่เกิดขึ้นเมื่อต้นปี 2564 รัฐบาลที่ขาดวิสัยทัศน์จึงไม่สามารถจัดหาวัคซีนได้ทันท่วงที ในเชิงปริมาณ และคุณภาพ เนื่องจากความประมาท ชะล่าใจ และไม่มีความสามารถในการมองการณ์ไกล ในการปฏิบัติการเชิงรุก ที่จะต้องสั่งซื้อ และจัดหาวัคซีนให้พร้อมไว้ก่อนโดยเร็ว เพื่อรองรับกับเหตุฉุกเฉินที่จะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ซึ่งผลที่เกิดขึ้น จึงเป็นที่ประจักษ์ว่า รัฐบาลบริหารภาวะวิกฤติแบบรายวัน และไม่เคยมีแผนล่วงหน้า รองรับในเชิงรุกใดๆทั้งสิ้น ยิ่งภายใต้สภาวะวิกฤติ และการขาดความเชื่อมั่นในรัฐบาล กรณีความไม่พอเพียงของวัคซีน ความไม่แน่นอนเรื่องระยะเวลา ความสับสน และวิธีการเข้าถึง และวิธีการกระจายวัคซีน ทั้งเชิงปริมาณ และคุณภาพ ให้ทั่วถึงประชาชนในแต่ละพื้นที่ แต่ละจังหวัด ก็เริ่มส่งผลให้ผู้บริหาร และประชาชนในระดับจังหวัด และท้องถิ่นต่างๆเริ่มมีความคิด ความต้องการในการเข้าถึงวัคซีนให้เร็วที่สุด และในที่สุด จะมีสภาพเสมือนการแก่งแย่ง การเสนอผลประโยชน์ ฯลฯ ซึ่งยิ่งจะส่งผลต่อ “ความไม่เป็นธรรม” ในสังคมให้มากขึ้นเรื่อยๆ จนอาจกลายเป็นความขัดแย้งกันเองของประชาชนในแต่ละจังหวัด การสื่อสารของรัฐบาลContinue reading “แถลงการณ์ “พรรคเป็นธรรม”กรณี ข้อคิดเห็น และข้อเสนอแนะ การบริหารจัดการวิกฤตโควิด–19”
  • คำประกาศอุดมการณ์ “พรรคเป็นธรรม”
    ความไม่เป็นธรรม คือ สนิมของการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมไทย ที่บ่อนทำลายชาติ ศาสน์ กษัตริย์ มาเป็นเวลานาน ส่งผลให้การบริหารจัดการประเทศในทุกมิติ เกิดความเหลื่อมล้ำขัดแย้ง ปิดกั้นโอกาสของส่วนรวม แต่เกิดประโยชน์เฉพาะกลุ่ม ทำให้ศักยภาพของประเทศมีความถดถอย เสื่อมโทรม แทนที่จะพุ่งไปข้างหน้า เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งรวมถึง ความอยู่ดี กินดี มีความสุขอย่างกว้างขวาง และทั่วถึงให้กับประชาชนทุกพื้นที่ ด้วยความเชื่อมั่นใน ประชาธิปไตย และ ความศรัทธาในความเป็นธรรม ทำให้จุดยืนและอุดมการณ์ของพรรคเป็นธรรม คือ ประชาธิปไตยที่เป็นธรรม ซึ่งจะเปิดโอกาสแห่งความเป็นธรรม ทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม การศึกษา คุณภาพชีวิตและกฏระเบียบต่างๆ ให้เกิดการพัฒนา ตอบสนองต่อความต้องการที่แท้จริงของชนทุกชั้น ทุกเพศทุกวัย พรรคเป็นธรรม กำเนิดขึ้นท่ามกลางบริบทการเมืองใหม่ ที่เน้นคุณค่าของประชาธิปไตยและประชาชนเป็นหลัก ดังนั้นพรรคจึงเน้นคุณภาพของบุคลากรและนโยบายที่เป็นรูปธรรม นำไปปฏิบัติได้จริง โดยมุ่งหวังพลังของประชาชนที่รักความเป็นธรรม เป็นพลังค้ำจุนและเป็นพลังผลักดันให้พรรคเป็นธรรม ได้ทำหน้าที่รับใช้ประชาชนและนำประเทศไทยไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว มั่นคง และยั่งยืน เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและความผาสุกของประชาชนโดยรวม
  • “พรรคเป็นธรรม” เปิดประชุมใหญ่ มุ่งอุดมการณ์ “ประชาธิปไตย ที่เป็นธรรม”
    ดร.ปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม พร้อมด้วย ดร.ชุมพล ครุฑแก้วเลขาธิการพรรคเป็นประธานในการประชุมเตรียมความพร้อมการประชุมใหญ่พรรคเป็นธรรม ครั้งที่ 1 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 28 มีนาคม 2564 นี้ ณ โรงแรมเวสต์เกต ต.บางม่วง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ตั้งแต่เวลา 09.30 น. เป็นต้นไป การประชุมใหญ่ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อกำหนดทิศทางการบริหารงานของพรรค ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพตามกระบวนการพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 พร้อมชี้แจงนโนยบาย วิสัยทัศน์ พันธกิจ และอุดมการณ์ของพรรคเป็นธรรม เพื่อให้การบริหารพรรคเป็นไปด้วยความเรียบร้อยโดยมุ่งหวังเพื่อความผาสุกของประชาชนอย่างแท้จริง
  • พรรคเป็นธรรม เปิดประชุมใหญ่ ครั้งที่1/2564
    พรรคเป็นธรรม ขอเชิญสมาชิกพรรคเข้าร่วมการประชุมใหญ่ของพรรคเป็นธรรม ครั้งที่ 1/2564 วันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคม 2564 เวลา 9.30-12.00 น. ณ โรงแรมเวสต์เกต เรสสิเดนซ์ ต.บางม่วง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี สอบถามรายละเอียด ติดต่อคุณวีระนุช ธีระภูธร โทร. 0853597982
  • test2
    test2
  • test1
    test1
  • Introduce Yourself (Example Post)
    This is an example post, originally published as part of Blogging University. Enroll in one of our ten programs, and start your blog right. You’re going to publish a post today. Don’t worry about how your blog looks. Don’t worry if you haven’t given it a name yet, or you’re feeling overwhelmed. Just click the “New Post” button, and tell us why you’re here. Why do this? Because it gives new readers context. What are you about? Why should they read your blog? Because it will help you focus your own ideas about your blog and what you’d like toContinue reading “Introduce Yourself (Example Post)”
  • Introduce Yourself (Example Post)
    This is an example post, originally published as part of Blogging University. Enroll in one of our ten programs, and start your blog right. You’re going to publish a post today. Don’t worry about how your blog looks. Don’t worry if you haven’t given it a name yet, or you’re feeling overwhelmed. Just click the “New Post” button, and tell us why you’re here. Why do this? Because it gives new readers context. What are you about? Why should they read your blog? Because it will help you focus your own ideas about your blog and what you’d like toContinue reading “Introduce Yourself (Example Post)”
  • Introduce Yourself (Example Post)
    This is an example post, originally published as part of Blogging University. Enroll in one of our ten programs, and start your blog right. You’re going to publish a post today. Don’t worry about how your blog looks. Don’t worry if you haven’t given it a name yet, or you’re feeling overwhelmed. Just click the “New Post” button, and tell us why you’re here. Why do this? Because it gives new readers context. What are you about? Why should they read your blog? Because it will help you focus your own ideas about your blog and what you’d like toContinue reading “Introduce Yourself (Example Post)”
Design a site like this with WordPress.com
Get started